แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56
1. สุเมทเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนทุกปี การกระทำของสุเมท เป็นบทบาทหน้าที่ของพลเมืองดีในด้านใด (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. ด้านการกุศล 2. ด้านการเมือง
3. ด้านเศรษฐกิจ 4. ด้านสังคมและวัฒนธรรม
ตอบ 3. เพราะการเสียภาษีอากรถือเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งของพลเมืองที่ดี เพราะภาษีอากรเปรียบเสมือนรายได้หลักของประเทศ ซึ่งรัฐจะสามารถนำเงินภาษีที่จัดเก็บได้ไปพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า เพื่อเศรษฐกิจมีการขับเคลื่อนอย่างเต็มที่
2.ข้อใดเป็นปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจของทุกประเทศ (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. คุณภาพของผลผลิต การกระจายสินค้าและบริการ ต้นทุนการผลิต
2. การเลือกผลิตสินค้าและบริการ ต้นทุนการผลิต การขาดแคลนเงินทุน
3. การขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ การขาดแคลนเงินทุน การเลือกวิธีการผลิต
4. การเลือกผลิตสินค้าและบริการ การเลือกวิธีการผลิต การกระจายสินค้าและบริการ
ตอบ 4. ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจมีสาเหตุมาจากความไม่สมดุลกันระหว่างความต้องการสินค้าและบริการมาสนองความต้องการของมนุษย์กับทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ทุกประเทศต้องประสบ ซึ่งได้แก่ จะผลิตอะไร จำนวนเท่าไหร่ จะผลิตอย่างไร จะผลิตเพื่อใคร จะกระจายหรือจัดสินค้าและบริการที่ผลิตนี้ไปยังบุคคลต่างๆ ในสังคมอย่างไร
3. “สามารถแก้ไขความไม่ยุติธรรมในสังคมได้มาก และลดช่องว่างทางเศรษฐกิจระหว่างประชาชนในชาติ” เป็นข้อดีของระบบเศรษฐกิจในข้อใด (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม
2. ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม
3. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม
4. เศรษฐกิจพอเพียง
ตอบ 2. ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมเป็นระบบเศรษฐกิจที่รัฐบาลเข้าไปควบคุมดำเนินการผลิต เน้นการจัดสวัสดิการให้ประชาชน ทำให้มีการจัดสรรทรัพยากรและรายได้ที่เป็นธรรม มีความเท่าเทียมกัน สามารถลดช่องว่างทางเศรษฐกิจของประชาชนได้
4. “เกษตรกรมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินทำกิน มีอิสระในการกำหนดราคาผลผลิตทางการเกษตรของตนเอง แต่เมื่อราคาผลผลิตตกต่ำ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ภาครัฐต้องเข้าไปแทรกแซง โดยการประกันราคาพืชผล” เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจแบบใด (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม 2. ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม
3. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม 4. เศรษฐกิจพอเพียง
ตอบ 3. ระบบเศรษฐกิจแบบผสมเป็นการนำเอาลักษณะบางอย่างของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมและสังคมนิยมมาผสมผสานกัน ซึ่งในกรณีนี้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตสินค้าและบริการนั้น คือ เกษตรกรสามารถเป็นเจ้าของที่ดิน และสามารถกำหนดราคาเองได้ โดยเป็นไปตามกลไกราคา แต่ในบางกรณีรัฐบาลจะเข้าไปแทรกแซงราคาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
5. ข้อใดเป็นความได้เปรียบของระบบเศรษฐกิจแบบผสมที่มีเหนือระบบเศรษฐกิจแบบอื่น (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. บทบาทของรัฐบาลและเอกชนในการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม
2. รัฐบาลและเอกชนต่างมีบทบาทในทางการค้าและการลงทุนได้ทัดเทียมกัน
3. รัฐบาลและเอกชนต่างร่วมกันจัดสวัสดิการตามความต้องการของประชาชนได้มากขึ้น
4. รัฐบาลและเอกชนสามารถใช้กลไกราคาเป็นเครื่องมือสำคัญในการตัดสินใจประกอบธุรกิจ
ตอบ 4. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม โดยมากรัฐจะเป็นผู้บริหารทรัพยากรในส่วนสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ประปา ส่วนเอกชนจะเป็นผู้บริหารในส่วนสินค้าและบริการทั่วไป ซึ่งระบบเศรษฐกิจแบบผสมจะมีความได้เปรียบในด้านการใช้กลไกราคาในการตัดสินใจประกอบธุรกิจ หรือส่งเสริมบรรยากาศการค้าการลงทุน ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ
6. การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานที่ให้บริการด้านการขนส่ง จัดอยู่ในระบบตลาดแบบใด (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. ตลาดผูกขาด
2. ตลาดกึ่งผูกขาด
3. ตลาดผู้ขายน้อยราย
4. ตลาดแข่งขันสมบูรณ์
ตอบ 1. การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานที่ให้บริการด้านการขนส่งภายในประเทศแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่มีเอกชนเข้าร่วมการแข่งขัน ดังนั้นการบริหารงานดังกล่าวจึงจัดอยู่ในประเภทตลาดผูกขาด
7. หากร้านจัดดอกไม้รับพนักงานที่จบสาขาคหกรรมในระดับปริญญาตรีเข้าทำงานและต้องจ้างในอัตราเงินเดือน เดือนละ 15,000 บาท ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ตามข้อใด (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. อุปสงค์เพิ่ม 2. อุปสงค์ลด
3. อุปทานเพิ่ม 4. อุปทานลด
ตอบ 4. อุปทานลด เนื่องจากอัตราเงินเดือนดังกล่าวถือเป็นต้นทุนการผลิตอย่างหนึ่งที่ร้านจัดดอกไม้ต้องรับผิดชอบ ส่งผลทำให้เจ้าของธุรกิจดังกล่าวไม่มีความต้องการแรงงานในกลุ่มนี้ อาจจะรับสมัครบุคคลที่จบเพียงระดับชั้น ม.6 เข้าทำงาน เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าจ้างตามที่รัฐกำหนด
8. ปัจจัยในข้อใดส่งผลให้ผู้ผลิตตัดสินใจเพิ่มปริมาณการผลิต (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. ธนาคารปรับเพิ่มดอกเบี้ยเงินกู้
2. ปรับอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเพิ่มขึ้น
3. ราคาของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตลดต่ำลง
4. ราคาของสินค้าที่ทดแทนกันได้ลดต่ำลง
ตอบ 3. การที่ราคาวัตถุดิบลดลง ต้นทุนการผลิตก็ลดลง ผู้ผลิตได้กำไรมากขึ้น จึงมีแรงจูงใจให้มีการผลิตเพิ่มขึ้น แต่หากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนในการผลิตเพิ่มขึ้น ได้กำไรน้อยลง ไม่เป็นแรงจูงใจในการเพิ่มการผลิต และหากราคาสินค้าที่ทดแทนกันได้ราคาต่ำลง ทำให้ราคาสินค้านั้นต่ำลงด้วย ไม่เป็นแรงจูงใจในการผลิตสินค้า
9. ณ ระดับราคาดุลยภาพ ปรากฏว่าชาวไร่อ้อยเดือดร้อน จึงทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องเข้าช่วยหลือโดยกำหนดราคาประกัน ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. รัฐบาลจะต้องรับซื้ออ้อยส่วนเกินจากชาวไร่อ้อย
2. ชาวไร่อ้อยจะต้องจัดสรรโควตาขายให้โรงงานน้ำตาล
3. โรงงานน้ำตาลจะซื้ออ้อยได้ในราคาต่ำกว่าราคาดุลยภาพ
4. โรงงานน้ำตาลจะรวมตัวกันต่อรองราคารับซื้ออ้อยในราคาตลาด
ตอบ 1. ณ ระดับราคาดุลยภาพที่กำหนดราคาอ้อยที่ขายอยู่ในตลาดส่งผลกระทบต่อเกษตรกร รัฐบาลต้องเข้าไปรับซื้ออ้อยส่วนเกินจากเกษตรกร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร หลังจากนั้น รัฐอาจนำสินค้าเก็บไว้ ณ ที่ใดที่หนึ่งและเมื่อถึงช่วงเวลาที่ตลาดมีความต้องการสินค้ารัฐก็สามารถนำสินค้าเสนอขายในราคาที่เป็นไปตามกลไกราคาของตลาดได้
10. การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในภาคอุตสาหกรรม ทำให้ประเทศไทยต้องประสบปัญหาใดในปัจจุบัน เพราะเหตุใด (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. ดุลการชำระเงินขาดดุล เพราะต้องใช้เงินตราต่างประเทศมากขึ้นในการนำเข้าเทคโนโลยี
2. ผลผลิตสินค้าอุตสาหกรรมมีราคาสูงขึ้น เพราะผู้ผลิตมีอำนาจผูกขาดในการกำหนดราคามากขึ้น
3. มลพิษทางอากาศและทางน้ำ เพราะเกิดจากการผลิตและการบริโภคสินค้าอุตสาหกรรมมากขึ้น
4. ขาดแคลนบุคลากรทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพราะขาดงบประมาณในการพัฒนาการศึกษา
ตอบ 3. การนำเครื่องมือทางด้านเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อพัฒนาการผลิตในภาคอุตสาหกรรมถือเป็นผลดีในการเพิ่มปริมาณผลผลิต และควบคุมสินค้าให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน แต่ทำให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมตามมา
11. เกษตรทฤษฎีใหม่ขั้นต้นมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อแก้ไขปัญหาใดให้เกษตรกร (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. การสูญเสียที่ดินทำกิน
2. การหาช่องทางขยายตลาด
3. การขาดการรวมกลุ่มเพื่อผลิตสินค้า
4. การเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจได้ผลผลิตน้อย
ตอบ 1. เกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นการจัดการกับที่ดินทำกินให้สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินของตน ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดเพื่อการพึ่งพาตนเองได้ โดยการแบ่งที่ดินออกเป็น 4 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ขุดสระเก็บกักน้ำ ส่วนที่ 2 ปลูกข้าว ส่วนที่ 3 ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น ส่วนที่ 4 ให้เป็นพื้นที่สร้างที่อยู่อาศัย โรงเรือนเลี้ยงสัตว์
12. หลักการสหกรณ์กับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมีความสอดคล้องกันในเรื่องใด (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. การยึดแนวทางการพึ่งตนเอง
2. การร่วมมือร่วมใจกันในสังคมระดับท้องถิ่น
3. การบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
4. การทำกิจกรรมเศรษฐกิจเฉพาะกับสมาชิกหรือคนในชุมชนเดียวกัน
ตอบ 1. สอดคล้องกันในเรื่องการยึดแนวทางการพึ่งตนเอง โดยหลักการของสหกรณ์ เป็นองค์กรที่พึ่งตนเอง ดำรงความเป็นอิสระ เอื้ออาทรต่อชุมชน ส่วนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เน้นวิธีการผลิตแบบพึ่งตนเอง ลดการพึ่งพาระบบตลาด ลดการพึ่งพาการใช้สารเคมี ลดการพึ่งพาเงินกู้ และลดการพึ่งพาซื้อสินค้าจากสังคมภายนอก เน้นการเป็นผู้ผลิตเพื่อการบริโภคในชุมชน
13. การดำเนินงานของสหกรณ์ข้อใดที่แสดงให้เห็นถึงการนำหลักประชาธิปไตยมาใช้ (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. ดำเนินงานโดยอิสระ
2. จดทะเบียนนิติบุคคล
3. เปิดรับสมาชิกด้วยความสมัครใจ
4. ไม่ว่าจะถือหุ้นกี่หุ้นก็ออกเสียงได้เพียง 1 เสียง
ตอบ 2.สมาชิกสหกรณ์ทุกคนมีความเสมอภาคกัน ไม่ว่าจะถือหุ้นกี่หุ้นก็ออกเสียงได้เพียง 1 เสียง หรือ “one man one vote” หมายความว่า การออกเสียงในทุกเรื่องของสหกรณ์ สมาชิกมีสิทธิออกเสียงเพียงคนละ 1 เสียงเท่านั้น
14. ข้อใดแสดงว่าเงินทำหน้าที่ในการวัดมูลค่า (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. ส้มมีเงินแค่ 20 บาท ซื้อข้าวสารได้ไม่ถึง 1 กิโลกรัม
2. อ้อยเขียนเช็คส่วนตัวซื้อนาฬิกาข้อมือ 1 เรือน ราคาเรือนละ 30,000 บาท
3. โอนำธนบัตรไทยชนิดราคา 100 บาท ไปแลกธนบัตรราคา 50 บาท ได้ 2 ใบ
4. น้อยซื้อโทรทัศน์ 1 เครื่อง โดยการผ่อนชำระ 6 งวด งวดละ 10,000 บาท
ตอบ 2. เงินมีหน้าที่สำคัญ คือ เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ การที่อ้อยเขียนเช็คส่วนตัวซื้อนาฬิกาข้อมือ 1 เรือน เรือนละ 30,000 บาท แสดงว่าเงินทำหน้าที่ในการวัดมูลค่าของสินค้า
15. เมื่อเปรียบเทียบระหว่างธนบัตรใบละ 1,000 บาท กับสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท สินทรัพย์ใดมีสภาพคล่องสูงกว่า เพราะเหตุใด (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. ธนบัตร เพราะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปต้องการ
2. ธนบัตร เพราะนำไปแลกกับสิ่งอื่นๆ ได้ทันที
3. สร้อยคอทองทำ เพราะสามารถนำไปขายต่อได้รวดเร็ว
4. สร้อยคอทองคำ เพราะมีมูลค่าสูงกว่าธนบัตร 1,000 บาท
ตอบ 2. ธนบัตรมีสภาพคล่องสูงกว่าสร้อยคอทองคำ เพราะสามารถนำไปแลกกับสิ่งอื่นๆ ได้ทันที เนื่องจากเงินเป็นธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ เป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องมากที่สุด สามารถนำไปแลกเปลี่ยนกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ได้ง่ายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องมีต้นทุนในการแลกเปลี่ยน ส่วนสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท แม้จะมีมูลค่าสูงกว่า ธนบัตร 1,000 บาท แต่ไม่สะดวกที่จะนำไปซื้อสินค้าต่างๆ เหมือนเงินหรือธนบัตร
16. ถ้าปริมาณเงินหมุนเวียนในประเทศเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจอย่างไร (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. การลงทุนลดลง
2. อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น
3. มีการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น
4. เอกชนสามารถลงทุนได้อย่างเสรี
ตอบ 3. การที่ปริมาณเงินหมุนเวียนในประเทศมีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยลดลง การจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ประชาชนมีเงินจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ผลผลิตและรายได้โดยรวมของประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย
17. สภาพการณ์ใดบ่งบอกว่าเกิดภาวะเงินเฟ้อขึ้นในระบบเศรษฐกิจ (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. ประชาชนมีรายได้ที่แท้จริงเพิ่มขึ้น
2. สินค้าและบริการต่างๆ มีราคาสูงขึ้น
3. อำนาจซื้อของเงินที่มีอยู่ในมือของประชาชนลดลง
4. เงินจำนวนเท่าเดิมไม่สามารถซื้อสินค้าและบริการตามที่ต้องการได้
ตอบ 3. ภาวะเงินเฟ้อ เป็นภาวะที่อำนาจซื้อของเงินที่มีอยู่ในมือของประชาชนลดลง กล่าวคือ การที่มีจำนวนเงินเท่าเดิมแต่ซื้อสินค้าได้น้อยลง เนื่องจากการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ ประกอบกับสินค้ามีต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะเงินเฟ้อ
18. การดำเนินการในข้อใดช่วยแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อได้ (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. ลดอัตราเงินสดสำรองตามกฎหมาย
2. ธนาคารกลางประกาศรับซื้อคืนพันธบัตร
3. เพิ่มอัตราซื้อลดตั๋วเงินจากธนาคารพาณิชย์
4. ผ่อนคลายการกำกับแผนการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์
ตอบ 3. เมื่อเกิดปัญหาเงินเฟ้อ ธนาคารกลางจะกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไข โดยเพิ่มอัตราซื้อลดตั๋วเงินจากธนาคารพาณิชย์ ทำให้ธนาคารพาณิชย์ได้กำไรน้อยลง จึงไม่อยากรับซื้อตั๋วเงินจากลูกค้าอีกต่อไป ส่งผลให้ปริมาณหมุนเวียนของเงินตราในระบบลดลงด้วย เพราะพ่อค้าต้องถือตั๋วเงินไว้ไม่สามารถใช้เป็นเงินสดได้จนกว่าตั๋วเงินจะครบสัญญาจ่ายเงินจากผู้ซื้อสินค้า เท่ากับเป็นการลดอำนาจซื้อของผู้บริโภค มาตรการนี้จึงช่วยแก้ไขปัญหาได้
19. ถ้าคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นต่อไปอีก ธนาคารกลางจะต้องดำเนินมาตรการใดเพื่อชะลอเงินเฟ้อ (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. ลดอัตราค่าจ้าง
2. ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
3. ขึ้นอัตราภาษีดอกเบี้ยเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์
4. ขึ้นอัตรารับช่วงซื้อลดตั๋วสัญญาใช้เงินจากธนาคารพาณิชย์
ตอบ 4. ธนาคารกลางจะใช้มาตรการขึ้นอัตรารับช่วงซื้อลดตั๋วสัญญาใช้เงินจากธนาคารพาณิชย์เพื่อชะลอเงินเฟ้อ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงปริมาณเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ กล่าวคือ ถ้าธนาคารกลางขึ้นอัตรารับช่วงซื้อลดตั๋วสัญญาใช้เงิน ธนาคารพาณิชย์จะกู้เงินลดลง ดังนั้น เงินสดสำรองจึงลดลง ธนาคารพาณิชย์สามารถขยายสินเชื่อได้น้อยลง ปริมาณเงินซึ่งรวมถึงเงินฝากจึงลดลง เงินเฟ้อจะลดลงหรือชะลอลงได้
20. ถ้าเกิดสภาวะเงินฝืดจะส่งผลต่อประชาชนอย่างไร (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. ประชาชนใช้จ่ายเงินมากขึ้น
2. ประชาชนเสียภาษีให้รัฐมากขึ้น
3. ประชาชนมีอัตราการว่างงานสูง
4. ประชาชนมีเงินหมุนเวียนในมือสูง
ตอบ 3. การเกิดสภาวะเงินฝืดทำให้เงินออมในระบบมีน้อย เนื่องจากประชาชนมีเงินน้อย ทำให้สถาบันการเงินปล่อยเงินกู้เพื่อธุรกิจน้อย ในขณะที่ธุรกิจชะลอการผลิตลง เนื่องจากราคาสินค้าถูกลงและขาดแคลนเงินทุน ส่งผลกระทบจากการจ้างงานที่ลดลง ทำให้คนต้องตกงาน เศรษฐกิจหดตัว อำนาจซื้อของคนจึงมีน้อย
21. ในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ รัฐบาลควรมีมาตรการทางการคลังอย่างไร (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. เก็บภาษีเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มเงินคงคลัง
2. ใช้จ่ายให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นการผลิต
3. กู้ยืมน้อยลง เพื่อลดภาระงบประมาณ
4. ชะลอการปล่อยสินเชื่อ เพื่อลดหนี้ของประชาชน
ตอบ 2. ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรัฐบาลจะใช้นโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นการผลิต เนื่องจากในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ การผลิต การค้าขาย และการลงทุนทำธุรกิจต่างๆ อยู่ในสภาพซบเซา มีการจ้างงานน้อย มีคนว่างงานมาก ประชาชนมีกำลังซื้อน้อย รัฐบาลควรใช้นโยบายการคลังแบบขยายตัว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว โดยลดอัตราภาษีอากร (เพิ่มอำนาจซื้อให้ประชาชน) หรือ เพิ่มรายจ่ายของรัฐบาลให้มากขึ้น โดยทำงบประมาณขาดดุล (ตั้งงบรายจ่ายให้สูงกว่ารายได้) เน้นพัฒนาด้านการคมนาคมขนส่ง การชลประทาน และการสาธารณูปโภค เป็นต้น
22. ข้อใดแสดงว่าประเทศมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. สัดส่วนของคนยากจนต่อประชากรลดลง
2. รายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรสูงขึ้น
3. ประชากรมีสินค้าที่ผลิตจากเทคโนโลยีสมัยใหม่บริโภคมากขึ้น
4. ประเทศประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหามลพิษและสิ่งแวดล้อม
ตอบ 2. รายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรสูงขึ้นโดยประเทศที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ จะมีผลิตภัณฑ์มวลรวมจากสินค้าและบริการขั้นสุดท้าย (รายได้ประชาชาติ) สูงขึ้นทุกปี ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรเพิ่มสูงขึ้นด้วย จึงเป็นเครื่องชี้วัดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ
23. ข้อใดถือว่าเป็นมาตรการของนโยบายการค้าเสรี (แนวข้อสอบ O-NET วิชา สังคมศึกษา ปี 56 )
1. เก็บภาษีขาเข้าในอัตราต่ำ
2. ให้เงินอุดหนุนผู้ผลิตในประเทศ
3. ไม่เก็บภาษีสินค้าที่ส่งไปขายประเทศยากจน
4. ให้นำเข้าสินค้าจากประเทศต่างๆ ได้ทุกชนิด
ตอบ 1. นโยบายการค้าเสรี คือ การค้าที่ไม่มีการกีดกันทางการค้ากับประเทศคู่ค้า เช่น โดยไม่เก็บภาษีคุ้มกัน เพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมในประเทศแต่คงเก็บภาษีศุลกากรในอัตราต่ำ เพื่อเป็นรายได้ของรัฐ เพื่อลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศให้เหลือน้อยที่สุด